วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกัน

ขั้นตอนดำเนินการ
             1. นัดนายประกันให้นำผู้ต้องหามาพบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
             2. ก่อนส่งสำนวนให้แจ้งผู้ประกันทราบว่าจะให้นำผู้ต้องหามาพบเมื่อใด โดยให้ผู้ประกันทราบวันนัดก่อนพอสมควร
             3. หากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาส่งมอบได้ ให้แจ้งให้ทราบว่าผิดสัญญาประกัน ให้นำเงินตามจำนวนที่ระบุในสัญญาประกันมาชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และลงรายงานประจำวันให้ผู้ประกันลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน
             4. หากผู้ประกันไม่มาพบ ก็ให้ลงรายงานประจำวันว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน แล้วแจ้งเป็นหนังสือให้ทราบว่าผิดสัญญาประกันแล้ว และให้นำเงินค่าปรับมาชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
             5. เมื่อครบกำหนด ยังไม่นำเงินมาชำระค่าปรับ ให้ทำหนังสือรายงาน หน.สภ. ทราบ
             6. ทำหนังสือถึงพนักงานอัยการขอทราบค่าธรรมเนียมในการฟ้องคดีแพ่ง
             7. หน.สภ. ทำหนังสือถึง ผบก.ภ.จว. เสนอตามลำดับชั้นไปจนถึง ตร. เพื่อขออนุมัติฟ้องผู้ประกัน
             8. เมื่อได้รับการอนุมัติ ให้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังอัยการจังหวัดคดีศาลแขวง หรืออัยการจังหวัด (แล้วแต่ทุนทรัพย์ว่าเกิน 300,000 บาท หรือไม่) โดยแจ้งชื่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเป็นผู้ประสานงาน
             9. เอกสารประกอบการยื่นฟ้อง ได้แก่
                 -  สัญญาประกันและบันทึกเสนอสัญญาประกันฉบับจริง
                 -  หลักทรัพย์ที่ใช้ประกัน
                 -  สำเนารายงานประจำวัน ดังนี้
                     (1) วันจับกุมผู้ต้องหา
                     (2) วันปล่อยชั่วคราว
                     (3) วันที่ผู้ประกันรับทราบกำหนดวันส่งตัวผู้ต้องหา (ถ้ามี)
                     (4) วันแจ้งให้ผู้ประกันทราบว่าผิดสัญญาประกันและให้นำเงินค่าปรับ
                 -  สำเนาหนังสือแจ้งผู้ประกันว่าผิดสัญญาประกันและให้นำเงินมาชำระ พร้อมใบตอบรับทางไปรษณีย์   (ถ้ามี)
                 - ใบแต่งทนาย จำนวน 2 ฉบับ ให้ หน.สภ. คนปัจจุบันเป็นผู้ลงชื่อในคำฟ้อง
                 -  สำเนาคำสั่งให้ดำรงตำแหน่ง หน.สภ. ทั้งคนที่ให้ประกัน และคนปัจจุบัน (กรณีไม่ใช่คนเดียวกัน)
                 -  สำเนาคำสั่งแต่งตั้งของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และนายตำรวจผู้ประสานงานกับพนักงานอัยการ
                 -  สำเนาหมายจับผู้ต้องหา
           10.  แจ้งความคืบหน้าของคดีให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบทุกระยะ 60 วัน
           11. นำเงินค่าธรรมเนียมในการฟ้องคดีส่งให้พนักงานอัยการ โดยเบิกจาก ภ.จว.
           12. เจ้าหน้าที่การเงินของพนักงานอัยการ ออกใบเสร็จรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐาน
           13. ไปเบิกความตามนัด และทุกครั้งที่มีการพิจารณาคดี
           14. ถ้าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลย(ผู้ประกัน)ชำระหนี้ กรณีที่จำเลยไม่มาศาลเลย พงส.ต้องมีคำร้องขอให้ศาลส่งคำพิพากษาให้จำเลยตามภูมิลำเนา เพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา
           15. เมื่อครบกำหนดในคำพิพากษาแล้ว จำเลยเพิกเฉย พงส.ต้องเขียนคำร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี
           16. เมื่อศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว พงส.ต้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการต่อไป
           17. หน.สภ. ตั้งคณะกรรมการสืบหาหลักทรัพย์ และต้องรายงานความคืบหน้าในการสืบหาหลักทรัพย์ให้ ตร.ทราบทุก 6 เดือน และนำ จพง.บังคับคดีไปยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด การบังคับคดีมีอายุความ 10 ปี